มดลูก เป็นอวัยวะสำคัญที่จะมีแต่ในผู้หญิงเท่านั้น โดยมีหน้าที่ช่วยในการสืบพันธุ์ของเพศหญิง ซึ่งสาวๆ หลายคนมักจะประสบปัญหาความผิดปกติของมดลูกกันเป็นส่วนมาก หากมีความผิดปกติที่ร้ายแรงอาจส่งผลให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ โดยวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักอาการมดลูกอักเสบ อาการที่ผู้หญิงหลายคนกำลังประสบปัญหาอยู่ ว่าแต่จะมีลักษณะอากาและวิธีการรักษาอย่างไรให้ถูกต้อง ไปติดตามกันเลยค่ะ
มดลูกอักเสบ อาการเป็นอย่างไร มีความรุนแรงมากเพียงใด
ลักษณะมดลูกอักเสบอาการที่หลายท่านอาจจะประสบอยู่ แต่ไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร หรือเป็นเพราะอะไร มีความรุนแรงมากเพียงใด ซึ่งมีอาการดังต่อไปนี้
- ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยเป็นประจำ หรืออาจมีอาการปวดหลังร่วมด้วย
- มีตกขาว หรือน้ำออกทางบริเวณช่องคลอด มีลักษณะสีเทา สีน้ำตาล โดยมีปริมาณมากและมีกลิ่นร่วมด้วย
- มีเลือดซึมออกบริเวณช่องคลอด
- ขณะมีเพศสัมพันธ์จะมีเลือดออก หรือบางครั้งอาจจะมีเลือดออกในช่วงที่ยังไม่มีประจำเดือน
- ในขณะที่ปัสสาวะจะมีอาการแสบขัด
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการมดลูกอักเสบ
1.การร่วมเพศที่มีความรุนแรง หรือการร่วมเพศในขณะที่มีประจำเดือน ซึ่งส่งผลให้เกิดการติดเชื้อและเกิดการอักเสบของมดลูก
2.เกิดการแพ้สารเคมีบางชนิดที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ส่งผลให้เกิดผลกระทบการอักเสบของมดลูก
3.การติดเชื้อหลังคลอด ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ หลังคลอด
4.การทำแท้ง เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ ในการทำแท้งอาจไม่มีความสะอาด หรือวิธีการทำไม่มีความปลอดภัย ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย และสูงที่สุด
5.ผลกระทบจากการเกิดการระคายเคืองจากสิ่งของเครื่องใช้ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าอนามัย เครื่องสวมใส่ที่ไม่มีความสะอาด
ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดมดลูกอักเสบ
ในการปฏิบัติตัว หรือพฤติกรรมที่ส่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดมดลูกอักเสบ ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่มีความเหมาะสม โดยมีพฤติกรรมเสี่ยงที่สาวๆ ควรรู้ไว้เพื่อหลีกเลี่ยงดังต่อไปนี้
1.เปลี่ยนคู่นอนบ่อยครั้ง
2.ใช้วิธีการคุมกำเนิดในรูปแบบของห่วงอนามัยที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ จนเป็นผลให้มดลูกเกิดการอักเสบได้นั่นเอง
3.ผู้ที่ชอบมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่เป็นประจำเดือน เพราะเชื้อโรคจะสามารถแพร่เชื้อได้ง่ายเมื่อมีเพศสัมพันธ์ในขณะที่เป็นประจําเดือน
แนวทางการรักษาเมื่อเกิดมดลูกอักเสบ
แนวทางในการรักษามีมากมายหลายวิธี ซึ่งก็แล้วแต่แพทย์ผู้ตรวจ ที่จะทำการรักษาตามขั้นตอน ซึ่งมีวิธีการรักษาดังต่อไปนี้
1.หากถูกวินิจฉัยจากแพทย์ว่ามดลูกอักเสบ แพทย์จะทำการตรวจภายใน เพื่อตรวจดูความผิดปกติภายใน จากนั้นแพทย์จะทำการเก็บตัวอย่างที่ทำการตรวจภายใน ด้วยวิธีการป้ายเข้าไปที่ปากมดลูก เพื่อไปทำการตรวจหาสาเหตุของโรคที่ร้ายแรง
2.หลังจากที่ทราบสาเหตุ แพทย์จะทำการรักษาตามขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นวิธีการรับประทานยาเพื่อรักษามดลูกอักเสบ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียที่เกิดขึ้น
3.ถ้าหากพบความรุนแรงของมดลูกอักเสบที่มีสาเหตุมาจากมะเร็งปากมดลูก แพทย์จะทำการผ่าตัดเย็น เพื่อให้ความเย็นไปทำลายเซลล์มะเร็งที่บริเวณปากมดลูก หรืออาจจะมีการนำสารที่ใช้ในทางการแพทย์มาช่วยในการทำลายเซลล์มะเร็งด้วยนั่นเอง
ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากมดลูกอักเสบ อาการรุนแรงหรือไม่
เมื่อผู้หญิงมีลักษณะของมดลูกอักเสบ อาการที่เกิดขึ้นมีทั้งรุนแรงและไม่รุนแรง แต่ถ้าหากอาการไม่รุนแรง ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะทำให้มีอาการไข้ ปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย มีตกขาวที่ผิดปกติ วิธีการรักษาด้วยยาก็จะรักษาหายภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือมีวิธีการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องก็สามารถหายได้ แต่ถ้าหากมีอาการรุนแรงมดลูกอักเสบเรื้อรังหรือแม้แต่เป็นโรคที่มีความร้ายแรงอย่างเช่นมะเร็งปากมดลูก หนองใน HIV ก็จะส่งผลให้มีบุตรยาก หรือในบางท่านไม่สามารถมีบุตรได้เลย
ลักษณะของมดลูกอักเสบ อาการที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าหากท่านใดประสบกับปัญหาเหล่านี้อยู่ หรือมีอาการที่คล้ายคลึงกับที่กล่าวมา ท่านควรที่จะรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา หรือทำการตรวจวินิจฉัย เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเช่นนี้ โดยมดลูกอักเสบ อาการที่ยังไม่มีความรุนแรง จะสามารถรักษาหายได้ทันที ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดมดลูกอักเสบแบบเรื้อรัง หรือเกิดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นตามมาเมื่อไม่มีการรักษาได้ทันท่วงที
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.rattinan.com/liposuction/